วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บันทึก natursit เกาะเสม็ด

และแล้วการเดินทางไปยังเกาะเสม็ดก็เกิดขึ้นพร้อมกับความตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาส naturist แม้ว่าจะไปคนเดียว แต่ก็มีข้อดีตรงที่สะดวกและคล่องตัวในการ naturist เพราะหากคนที่ไปด้วยกัน ไม่ได้เป็น naturist ก็อาจจะไม่ fin ได้ trip เกาะเสม็ดกับ naturist นี้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ราวสองครั้งได้ ในช่วงปี 2010-2011 มาปี 2012 ต่อปี 2013 มีจำนวนรวมกันราว 5 ครั้งได้ แต่ละครั้งมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากมาย โดยมาผมจะเริ่มจากการเลือกเช่ารถมอเตอร์ไซด์รุ่นที่มีที่เก็บสัมภาระเยอะได้ เช่น honda click เอาสภาพแรงดีๆสักหน่อย ผมเลือกจะเก็บของทุกอย่างไว้ในช่องเก็บและเมื่อขับไปถึงช่วงที่ห่างไกลบ้านคนหรือรีสอร์ท เช่น ช่วงจากสามแยกไปหาดพร้าว ที่จะเลี้ยวซ้ายไปหาดทับทิม ผมจะแก้ผ้าออกหมด นำเสื้อผ้าเก็บไว้ในช่องเก็บแล้วขี่มอเตอร์ไซด์ในสภาพเปลือยเปล่า มิได้อยากให้ใครเห็น เพียงอยากทำอะไรที่สุดโต่งดูบ้าง ไม่อยากให้ใครเห็นแล้วเดือนร้อน เพียงอยากใช้ชีวิตให้มีรสชาดแบบที่คนทั่วไปไม่เคยคิดจะทำ ไม่อาจทำได้ ไม่มีโอกาสจะทำได้หรือเพียงคิดจะทำก็คงเห็นว่าบ้าแล้วล่ะ แต่ผมชอบที่ผมทำเสมือนคนบ้า แต่จริงๆผมไม่บ้า หลายครั้งที่ขี่มอเตอร์ไซด์สวนทางกับรถที่วิ่งมา ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์ด้วยกัน หรือจะเป็น ATV หรือจะเป็นรถกระบะที่รับส่งนักท่องเที่ยว แต่ผมก็ขี่ผ่านไปเฉยๆ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จุดหมายของผมคือหาดนวล ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหาดที่สวย สะอาด สงบ ขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านเหมือนหาดอื่นๆ และไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก จากถนนลูกรังสายหลักที่วิ่งทั่วเกาะ ซอยที่วิ่งเข้าหาดนวล จะเป็นทางแคบๆ และชัน ไม่มีบ้านคน การแก้ผ้าขี่เข้าไปดูเหมือนจะทำให้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง จะเมื่อสุดทางถนน จะพบบ้านพักคนงานของรีสอร์ทที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวของหาดนวล ณ. เกาะเสม็ดเกาะสวรรค์แห่งนี้ ด้วยความคุ้นชินการแก้ผ้าและจอดรถไว้ พร้อมกับเดินเปลือยเปล่าลงไปยังหาด หรือบริเวณทางเดินป่าที่เชื่อมกับหาดทับทิม จึงเป็นสิ่งที่สร้างความสุขอย่างอิ่มเอมจริงๆ สิ่งที่ติดตัวมีเพียงอย่างเดียวคือกุญแจมอเตอร์ไซด์เท่านั้น นักท่องเที่ยวรวมทั้งไทยและต่างชาติ นับร้อยคนที่พบเห็น naturist อย่างผมเดินเปลือยเปล่าท่ามกลางป่าและชายหาด หรือโขดหินและเกาะเสม็ดแห่งนี้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเข้ามาต่อว่า หรือห้ามปรามแต่อย่างใด หลายคนมองผมด้วยความประหลาดใจ หลายคนเข้ามาคุยด้วย หลายคน say hi หลายคนคิดว่าผมเป็นเกย์ หลายคนคิดว่าผมบ้า หลายคนที่ผมเข้าไปคุย หลายคนที่ผมขอถ่ายรูป หลายคนอยากสัมผัสตัวผม เพราะเขาเป็นเกย์ ทุกคนที่จะสัมผัสผม ผมปฎิเสธอย่างสุภาพ ภายหลังพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วจึงพบว่า การที่หลายคนไม่ตกใจ กลัว หรือต่อว่าผม เพราะเหตุผลคือ ที่นี่คือเกาะ ผมไม่มีท่าทางจะเข้าไปทำร้าย หรือส่อไปทางโรคจิต เช่น ช่วยเหลือตัวเอง หรือแม้แต่ขนาดที่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่ สภาพขนาดที่เล็ก ไม่มีขนปกคลุมทำให้ดูไม่น่าเกลียดเกินไป มองดูคล้ายเด็กนั่นเอง ผมรู้สึกดีที่ผมดูเหมือนเด็กนะ แต่ก่อนอาจน้อยใจไปบ้าง ไม่มั่นใจบ้าง เวลาคุยกับเพื่อนๆเรื่องขนาดของช้างน้อย แต่ตอนนี้ผม โคตร happy เลย เพราะขนาดน้อยๆแบบนี้แหละที่ naturist ไปทั่วแล้วปลอดภัย ครับ

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

My world naturist part 8 (with nong FAH)

หลังจาก naturist คนเดียวมานาน ความต้องการมีเพื่อนไปร่วม naturist ก็เพิ่มมากขึ้นจนต้องคิดหาวิธีที่จะพาเพื่อนไปด้วยให้ได้ ก็ได้คำตอบในใจว่าคงต้องเริ่มจากคนที่พร้อมไป naturist ด้วยกัน พร้อมกับรับค่าจ้างที่สมเหตุผล สุดท้ายได้พบปะน้องฟ้าและเพื่อนของเธอ นัดเวลาเสร็จสรรพบ่ายสอง ออกเดินทางไปรับที่ทำงานของเธอ แล้วพาไปยังสถานที่ป่าข้างทางที่ไร้ผู้คน จากนั้นจึงเปลือยกายออก และเดินไปตามทางเดินท่ามกลางป่าที่ปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สัมผัสความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง น้องทั้งสองเปลือยกายออกด้วยความเป็นธรรมชาติ เดินเปลือยกายสามคนท่ามกลางป่าเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ขับรถไปส่งเธอที่ทำงานตอนบ่ายสี่โมงกว่าๆ พร้อมค่าขนมคนละพันห้า ผมได้ภาพสวยๆของเธอเก็บไว้ใน collection ที่ดูอย่างไรก็ไม่เบื่อ

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

My naturist story part 7

อารมณ์อยากแก้ผ้ามันจะเข้ามาในจังหวะที่บางครั้งเราก็ไม่ได้คาดคิด แบบว่าเป็นไปเองโดยธรรมชาติ บางครั้งก็สร้างสรรค์โอกาสให้เกิดขึ้น เช่นว่าครั้งหนึ่งได้รู้จักกับน้องๆสาวๆ ที่เปิดใจกว้างกับเรื่องแบบนี้ เพียงแต่จะให้เปลือยกายด้วยมันก็ต้องมีค่าตอบแทนสักเล็กน้อย ครั้งนั้นพาน้องๆสาวๆ 2 คนไปเดินแก้ผ้า เดินเปลือยกายแบบถอดทุกชิ้นในป่า ร่วมๆ 3 ชั่วโมง พร้อมกับเก็บภาพประทับใจไว้ 1 album แต่ขออนุญาติไม่เปิดเผย เพราะเกรงว่าน้องเขาจะเสียหายได้ หากมีใครมาพบเจอ หรือแม้กระทั่งที่หาดมีชื่อที่สัตหีบ เวลา 14.00 น. ได้มีโอกาสไปพบ naturist ชาวฝรั่งเศษ นั่งๆนอนๆอาบแดดอยู่ที่สุดชายหาด มองจากระยะไกล จะเห็นไม่ชัด และที่สุดชายหาดจะมีคนไปเล่นน้ำทะเลน้อยหรือเกือบจะไม่มีเลย สังเกตเห็นแต่ไกลแล้วว่ามีฝรั่งนั่งที่โขดหิน มองดีๆจะเห็นว่ากางเกงว่ายน้ำไม่ได้ใส่ ลองเดินไปดูใกล้ก็ใช่เลย naturist แบบเดียวกัน เลยทักทายและเปลือยกายเล่นน้ำทะเล จนตัวดำ เล่นน้ำไปมันสักพักมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นทั้งชายหญิงมาเล่นน้ำใกล้ๆกับที่เรา naturist กับอยู่ ตัวผมอยู่ในน้ำยังไม่ได้ขึ้นจากน้ำ ส่วนฝรั่งท่านนั้นเดินเปลือยกายขึ้นจากน้ำ ผ่านกลุ่มวัยรุ่นไปแบบระยะประชิด พวกเด็ก มองจนตาถลน และหัวเราะตลกโปกฮากันตรึม คงเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ผมยังจำได้ว่ามีเด็กผู้ชายคนนึง พูดเสียงดังว่า "แม่ง ใหญ่ เหมือนในหนังโป๊เล้ย" ส่วนผมเองนั้นยังไม่ขึ้นจากน้ำทะเล และเปลือยกายอยู่อย่างนั้น ไม่ห่างจากพวกเด็กๆ และด้วยเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว ต้องรอจนเด็กๆ เริ่มทยอยออกจากพื้นที่ไป หลังจากชายชาวฝรั่งเศษกลับไป เราก็ยังคงนั่งๆนอนๆเล่นน้ำทะเล จะกระทั่งพวกเด็กคงเห็นและเดาเอาแล้วว่าผมเองต้องแก้ผ้าด้วยแน่เลย พวกนั้นก็ค่อยๆทำทีเป็นเดินมาแถวที่ผมเปลือยกายอยู่  จนได้ระยะก็เห็นผมแก้ผ้าแบบเต็ม ซึ่งคราวนี้พวกเด็กมากันมากกว่าครั้งแรก ราว 20 คนได้ พอเห็นก็โวยวาย โห่ร้องกันใหญ่ หัวเราะกันปานว่าตัวเองไม่มีกระจู๋งั้นแหละ ผมละหงุดหงิดเพราะว่าโดนรบกวนความเป็น naturist แล้ว ผมก็เลยลุกจากที่นั่งไปแต่งตัวใส่กางเกงและเดินออกมาจากตรงกลุ่มเด็กพวกนั้น พวกเด็กๆ พอเห็นผมแต่งตัว ก็เงียบเลย ไม่เห็นล้อ หรือตะโกนอะไรอีก แปลกดีแหะ

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

My naturist story part 6 (fantastic Koh Larn)

เริ่มจากวันศุกร์บ่ายๆ ผมไปพัทยา ที่ chan resort ซึ่งเป็นที่ที่กลุ่ม naturist (ชมรมเปลือย) นัดมารวมตัวกัน ไปถึงผมพบกับสมาชิกเป็นครั้งแรก พร้อมกับสอบถามกับเจ้าของรีสอร์ทว่าที่นี่ให้เปลือยได้เลยหรือ ได้คำตอบว่า ก็ทำได้ ผมสังเกตดูที่รีสอร์ทนี้มีบ้านเป็นหลังๆ มี 9 หลัง มีชาวต่างชาติทั้งหมด บางหลังเช่าเป็นรายเดือน หมายความว่าหากเราไปและจองบ้านหลังที่เหลือจากที่เช่ารายเดือนไว้ เราขอและตกลงกับเจ้าของ ก็จะสามารถแก้ผ้าได้ทั้งรีสอร์ท โดยไม่ต้องกังวลครับ เจ้าของเป็นสามีภรรยา มีลูกและหลานสาวด้วย แต่พอเราจะแก้ เขาก็จะบอกให้ลูกหลานเข้าไปในบ้าน ไม่มาในพื้นที่ของเรา
วันนั้นบ่ายสี่โมง ผมคุยกับสมาชิกท่านนึงอยู่ ก็เห็นบางคนเดินแก้ผ้าออกมาจากบ้านเลย เป็นคนอังกฤษ สมาชิกทีไปก็มีทั้งหญิงและชาย มีอุดมการณ์เดียวกันคือ แก้ผ้าสัมผัสธรรมชาติ ไม่ทำให้ใครเดือนร้อนครับ แต่หญิงนี่ยังไม่แก้ครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไร
หลังบทสนทนาผมก็เดินไปแก้ผ้าที่ริมสระน้ำ และลงไปว่ายน้ำอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับสมาชิกท่านนึง หลังว่ายน้ำเสร็จผมก็กลับระยอง และตั้งใจว่าเช้าวันเสาร์จะมาใหม่
เช้าวันเสาร์ ผมรีบตื่นออกจากบ้าน 7.30 น. ถึงรีสอร์ท ราว 8.30 ได้เจอกับผู้จัดเป็นสามีภรรยากัน
ผมนั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทานอาหารเช้าพร้อมกัน ทั้งคู่นิสัยดีมากครับ พูดไทยได้
หลังจากอาหารเช้า ผมก็ไปแก้ผ้านอนบนเตียงรอบสระน้ำ สักพักคณะเปลือยมีแผนไปเกาะริน ผมเองไปไม่ได้ จึงจำเป็นต้องลาจากกลุ่มเปลือยราว เก้าโมงกว่าๆ
ผมตัดสินใจจะทำอะไรต่อดี คิดได้ว่าไปเกาะล้านดีกว่า ว่าแล้วผมก็บึ่งรถไปเลย ชุดที่ผมใส่คือกางเกงขาสั้น มีกระดุมตรงเป้า 2 เม็ดคล้ายกางเกงนอน และเสื้อกีฬา กางเกงในไม่ใส่ พร้อมเป้หนึ่งใบ
ผมลงเรือรอบ สิบโมงที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ต่อไปนี้ผมจะสรุปประเด็นสำคัญๆนะครับ
1. บนเรือผมเดินไปท้ายเรือนั่งเก้าอี้ที่ว่างไว้พอดี มีฝรั่งผู้หญิงในชุดบิกินี่  สองสามคน ผมต้องข่มอารมณ์น่าดู เพราะว่าทั้งขาวและใหญ่มาก อายุไม่มากด้วย
   เดินทางโดยรถมอเตอร์ไซด์เช่าไปที่หาดแสม และเดินเท้าไปหาดที่สามารถเปลือยได้
2. แก้ผ้าออกหมด ด้านหลังภูเขา ด้านหน้าทะเลใส สุดยอดเลยครับ สักพักมีชายฝรั่งเดินมาเจอผมแก้ผ้าอยู่ แกก็เฉยเดินผ่าน สักพักมีหนุ่มสาวฝรั่งสะพายกล้องถ่ายรูปมาด้วย หญิงบิกินี่ มาเจอผมแก้ผ้าเดินไปมาอยู่ ทั้งคู่ก็เฉยๆ ผมก็เดินแก้ผ้าไปมาราว ครึ่งชั่วโมงได้ครับ
จากนั้นผมหยิบเสื้อมาใส่ ลองจับดูยาวปิดน้องชายผมพอดี ผมอยากเปลือยแบบสุดๆ ก็เสื้อแค่เสื้อตัวเดียว เอากระเป๋าสะพายมาบังด้านหลังเพราะลมทะเลอาจจะเปิดขึ้นได้
3. ผมเดินกลับไปยังหาดแสมที่มีนักท่องเที่ยวนอนเต็มไปหมด บนเตียงผ้าใบ ผมเดินหลบอ้อมด้านหลัง บังเอิญเหลือบไปเห็นสาวใสฝรั่งนอนเปลือยอก เห็นนมขาวหัวนมชมพู ชูชัน สุดยอดเลยครับ ผมไม่กล้าหยุดยืนดูก็เลยเดินผ่านไป พอผ่านตรงพนักงานมีเคาน์เตอร์ บริกรถามผมว่าหาอะไรเปล่าครับ ผมในสภาพแก้ผ้าไม่ใส่กางเกงยืนคุยกับเขาพักนึง ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเขาจะไม่เห็น เพราะบริกรที่มาคุยกับผมมีหญิงด้วยชายด้วยราว สามสีคน ผมปลีกตัวออกมา บอกไปว่าขอเดินผ่านไปยังลานด้านหลังร้านเฉยๆ ไปที่รถมอไซด์ที่เช่ามา และขี่ออกไปในสภาพไม่ได้ใส่กางเกง สุดยอดไหมครับ
 4. ไปถึงหาดตายาย หาที่เหมาะๆหลังโขดหินแก้ผ้าออกหมด ผมนั่งหลบที่ใต้ต้นไม้หลังโขดหินนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมองมาไม่เห็น ผมนั่งไปสักพักมีวัยรุ่นหญิงราว 5 คนเดินโผล่หลังโขดหินมาตรงที่ผมนอนเปลือยอยู่ ผมเกรงจะไม่ดีเลยเอาผ้ามาปิดหน้า หญิง ห้าคนมาหาวิวถ่ายรูป ทุกคนเห็นผมนอนแก้ผ้าแน่นอน ตอนนั้นยอมรับว่าอารมณ์ของผมสุดไปเลย ผมมองทะลุผ้าขนหนูที่ปิดหน้าผมอยู่ เห็นแต่ละคนแอบๆมองมา น้องทั้งห้าคนถ่ายรูปกันนานมาก ห่างจากผมแค่ ห้าเมตรเอง จนพอเดินห่างไปนิดนึงเอาผ้าออกมองไปสบตากับน้องผู้หญิงหนึ่งในนั้น ผมเห็นน้องเขาทำหน้าตาสงสัย คงถึงบางอ้อว่าได้เห็นคนไทยแก้ผ้า ไม่ใช่ฝรั่ง จากนั้นกลุ่มน้องก็กลับไป
5. ผมเดินทางกับเข้าฝั่งพัทยาไปตรงห้องอาบน้ำจืดแถวพัทยาเหนือ เป็นฝักบัวอาบรวม เข้าทางผมเลย มีคุณป้าเก็บตังค์และนั่งเฝ้าหน้าร้าน จากที่นั่งจะสามารถหันมาเห็นผมอาบน้ำตลอดเวลา ผมอาบน้ำไปโดยมีคุณป้านั่งห่างจากผมไปแค่ 10 เมตร แต่ป้าแกไม่หันมามองหรอกครับ ผมหันไปดูเป็นระยะ และเชื่อไหมครับผมอาบน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ไม่มีใครเข้ามาอาบเลย ห้องน้ำรวมนี่ก็เลยเป็นของผมคนเดียวครับ
หลังจากกลับจากเกาะล้านครั้งนั้น ก็ยังโหยหาการแก้ผ้าในที่ท่ามกลางธรรมชาติอีก
ผมคิดได้ว่าไปเล่นน้ำที่หาดแม่รำพึง โดยใส่กางเกงในสีขาว แบบกลับด้านเอาด้านหลังมาไว้ข้างหน้า เพราะมันจะบางมาก ผมไปช่วงราวหกโมงมีคนน้อยแล้ว พอจองเก้าอี้ชายหาด 20 บาทเรียบร้อยก็ถอดกางเกงและเสื้อเหลือกางเกงในกลับด้านตัวเดียว เดินไปเล่นน้ำ พอลงน้ำแล้วเห็นหมดเลยครับ ได้อารมณ์ดีมากเลยครับ พอไปอาบน้ำจืดก็ได้เจอห้องอาบน้ำฝักบัวแบบรวมอีกแล้ว โชคดีจริงๆ แต่ไม่มีคนอาบน้ำด้วยเหมือนเดิมครับ
ช่วงวันสองวันนี้ผมจะไปวิ่งแก้ผ้าก่อน และราวทุ่มนึงผมจะไปว่ายน้ำที่สระเปิดใหม่ของหมู่บ้านข้างๆหมู่บ้านผม สระไม่ใหญ่คนว่ายน้อย เหตุเกิดวันนี้เลยครับ ผมใส่กางเกงในกลับด้านและมองจังหวะที่ไม่มีใครสังเกตรีบลงสระไปเลย ผมจะขึ้นจากสระคนสุดท้าย พอทุกคนขึ้นจากสระแล้วผมจะถอดกางเกงในออกและแก้ผ้าว่ายในสระเลย สุดยอดมากๆ ที่นี่มีน้องผู้หญิงดูแลอยู่คนเดียว พอใกล้จะปิดน้องจะเดินมาบอก ผมก็ขึ้นจากสระเข้าห้องน้ำไปยืนแก้ผ้าในห้องน้ำซึ่งจุดที่ผมยืนหน้ากระจบจะเป็นมุมอับมองจากข้างนอกเข้ามาไม่เห็น ตรงทางเดินจากหน้ากระจกไปห้องอาบน้ำจะค่อนข้างแคบ เดินสวนกันยาก ผมถอดแว่นเอามือเช็ดแว่นและเดินออกไปเพื่อจะไปอาบน้ำฝักบัว บังเอิญว่าน้องเขาเดินเข้ามาในห้องน้ำชายเพื่อตรวจสอบไฟและประตูห้องน้ำ ผมประจันหน้าน้องเขาในสภาพเปลือยเปล่า ไม่ได้สบตาน้องคือทำเป็นเนียนๆว่าไม่เห็นน้องเดินเข้ามาและเดินเข้าห้องอาบน้ำไปเลย สักพักผมได้ยินว่าน้องพูดกับตัวเองว่า "โอ้โห้เต็มๆเลย" จากนั้นน้องก็ตะโกนบอกผมด้วยเสียงธรรมดาว่า พี่ค่ะ ช่วยปิดไฟด้วยนะค่ะ พอผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินออกมา ก็ไม่เห็นน้องเขาแล้ว คงกลับไปแล้ว คิดว่าคงติดตา และไม่กล้ามองหน้าผมมั้ง ผมยังเข้าใจว่าน้องเข้าใจว่าผมไม่เห็นน้องเขานะ พรุ่งนี้ผมจะไปอีก แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกครับ

My Naturist story part 5 (review all)

ขอแนะนำตัว
ผม outdoo lover ชอบแก้ผ้า และแก้อยู่เรื่อยๆ ทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว รู้สึกครั้งแรกตอนที่กลับเข้าบ้านหลังเลิกเรียนตอนบ่ายสามแล้วไม่มีใครอยู่ก็เลยลองแก้ผ้าออกเดิน ตอนแรกในบ้านก่อน รู้สึกดีแบบประหลาด หลังๆก็ออกไปนอกบ้าน พอโตมาก็แก้ในซอยข้างคอนโด พอมีรถก็ออกตระเวนตามสถานที่ต่างๆ ป่าเขา ไร่มันสัมปะหลัง กลางถนน กลางซอย ตอนกลางคืนและกลางวัน แล้วแต่จะสะดวก

อายุ 14 เดินแก้ผ้าในหมู่บ้าน ตอนกลางวันวันเสาร์ ไม่รู้รอดสายตาคนไปได้ไง ยังงงอยู่เหมือนกัน
อายุ 17 เคยเดินแก้ผ้าตอนดึกเข้าไปในซอยทะลุไปถนนใหญ่ ไปโผล่แถวตลาด มีคนเห็นมากมาย (ไม่รู้รอดจากตำรวจมาได้ไง)
อายุ 25 เคยเดินแก้ผ้าออกมาจากห้องที่หอพัก 4 ชั้นเดินผ่านห้องที่ปิดล๊อค ลงบันได ไม่มีลิฟท์ ไม่มีกล้องวงจรปิด เวลาทั้งกลางวันและกลางคืน เดินขึ้นลงไปมา มีครั้งนึงตอนกลางวันมีคนจับได้เพราะเดินผ่านหน้าห้องที่เปิดอยู่เป็นผู้หญิงอยู่กับแฟนอายุกลางคน ผู้หญิงเห็นแล้วตกใจเรียกยามมาไล่จับ พอดีหนีทันเข้าห้องไปได้ก่อนที่ยามจะมาไล่จับได้ทัน แต่ยามก็คงพอจะรู้ว่าอยู่ห้องไหน แต่ก็คงไม่แน่ใจก็เลยมาเคาะประตูและถามแบบไม่มั่นใจว่าเคยออกมาเดินนอกห้องไหม (ผมเพิ่งเข้าไปพักอยู่ที่หอนี้) ผมก็บอกว่าไม่เคย และก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก เรื่องก็จบไป แต่ผมก็ไม่กล้าออกมาแก้ผ้าอีกเลย และก็ย้ายหอออกมาเลย และที่หอเดียวกันนี้เองก่อนหน้านั้น ทุกวันเวลาอาบน้ำซึ่งห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกตรงระเบียง ผมอยู่ชั้นสอง มองจากระเบียงลงไปข้างล่างเป็นซอย ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงเรียนชั้นอนุบาลมีคุณครูผู้หญิงเป็นหลักๆ ตอนเช้าๆก่อนไปทำงานหรือตอนดึกที่ทำงานเสร็จแล้ว ผมจะแก้ผ้าเดินออกนอกระเบียงที่มีที่กั้นสูงประมาณต้นขาเป็นขอบปูน ไม่ปิดทึบแต่เป็นเสาปูนซี่ๆ จำนวน 4 ซี่ หากมองขึ้นมาจากถนนจะเห็นผ่านช่องเสาได้ หรือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารของโรงเรียนซึ่งห่างแค่ความกว้างของซอยจะมองเห็นผมแก้ผ้าหมดอย่างแน่นอน แว่บแรกก่อนที่ผมจะแก้ผ้าออกไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำหรือทำธุระอะไรก็ตามนั้น ตอนแรกสุดผมก็ไม่ได้คิดอยากจะแก้หรอกครับ แต่บังเอิญว่าห้องน้ำนี้ไม่มีที่แขวนผ้าเช็ดตัว ผมก็ปิ๊งไอเดียว่า ไม่มีให้แขวนก็ไม่ต้องเอาผ้าเช็ดตัวไปด้วยล่ะกัน แก้ผ้าออกไปเลย แล้วก็ทำเรื่อยมา ผมคิดว่าคงมีคนเห็นบ้างล่ะมั๊ง ทำทุกวันแต่ก็ไม่มีเรื่องราวไปฟ้องหรือแจ้งตำรวจอะไรนะครับคืนสุดท้ายก่อนย้ายออกจากหอนั้น ด้วยความที่ไปเลี้ยงฉลองส่งท้าย ก็เมานิดๆ สบโอกาสกลับจากงานเลี้ยงนั่ง taxi เข้าซอยผ่านหน้าหอไปหน่อย ซอยเปลี่ยวมาก แก้ผ้าออกหมด เดินไปตามทาง จังหวะผ่านเสาไฟต้นหนึ่งมีต้นไม้ขึ้นคลุม พร้อมที่นั่งพักในมุมมืด บังเอิญมีคนนั่งอยู่ผมมองไม่ทันเห็น จังหวะที่ผมเดินผ่านไปแล้ว หูได้ยินเสียงคนสตาทร์มอเตอร์ไซด์ขับออกจาก จุดที่ห่างจากด้านหลังผมไม่กี่เมตร นึกในใจ เมื่อกี้คงเห็นผมแก้ผ้าหมดแล้ว เพราะไฟทางตรงนั้นไม่ได้มืดเลย
อายุ 26 เคยแก้ผ้าเดินกลางดึกบนถนนแล้วเจอตำรวจเห็น ผมอ้างว่ามาวิ่งแก้บน ท่านเลยปล่อยตัวไม่ติดข้อหาอนาจาร รอดมาได้ไงก็ไม่รู้ ขอบคุณคุณตำรวจ 2 ท่านคนนั้นมากๆ
อายุ 27 เคยแก้ผ้าว่ายน้ำในสระในหมู่บ้านตอนมืด ที่ไม่มีคนว่ายแล้ว
อายุ 27 เคยแก้ผ้าเดินบนถนนที่เปลี่ยว สองข้างทางเป็นไร่มัน เวลาบ่ายแก่ เจอคนขับมอเตอร์ไซด์บ้าง คนมาวิ่งออกกำลังกายบ้าง แต่ไม่มีการพูดคุยหรือทักอะไร แต่มีครั้งนึงที่วัยรุ่นจะเอาเรื่อง ขับมอเตอร์ไซด์ตามเพื่อนมาไล่ล่า วิ่งหนีเข้าป่าไปใส่กางเกงแทบไม่ทัน ครั้งนั้นรอดไปครับ
ช่วงนี้ผมมีโอกาสได้ไปแก้ผ้าเดินในป่าอยู่บ่อยๆครับ ไปทุกอาทิตย์ แต่ไม่ได้เอากล้องไปถ่ายรูปด้วย
ก็เดินบ้างวิ่งบ้าง ล่าสุดเมื่อวานราว 11 โมง ได้ไปแก้ผ้าบนถนนลาดยาง ข้างทางเป็นป่าสูงประมาณเอว รถวิ่งน้อยมาก เพราะไม่ค่อยมีบ้านคน สุดทางเป็นลูกรัง ทำให้แทบจะไม่มีรถวิ่งสวนมาก แต่ก่อนสุดทางจะมีซอยเข้าบ้านสวนของคนแถวนั้น ผมไปจอดรถดูลาดเลาอยู่พักนึงก็เห็นมอเตอร์ไซด์วิ่งไปมาบ้าง แต่น้อยมาก ผมสำรวจเส้นทางจนทั่วแล้ว จึงจอดรถในมุมต้นไม้บัง แก้ผ้าออกหมด และใส่รองเท้าผ้าใบ เพื่อจะได้วิ่งได้ถนัดๆ ผมออกมาจากที่ป่าข้างทาง มองซ้ายขวาไม่มีรถ ก็เดินแก้ผ้าออกไปเลยบนถนน มีความสุขมากครับ เดินไปวิ่งไปจนไปสุดลูกรัง ระยะทางประมาณ 800 เมตรได้ จะตรงจุดที่เป็นลูกรังจะเป็นเนินสูง เมื่อมองย้อนลงมาจะเห็นถนนทอดยาวลงไป (วันหลังจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ) เห็นว่าไม่มีรถก็เดินลงมา ได้สักพัก มีรถมอเตอร์ไซด์ขับมาข้างหน้าประมาณ 80 เมตร ผมหลบเข้าข้างทาง ข้างหน้าผมราว 20 เมตร มีซอยเข้าบ้านคน ส่วนด้านหลังผมเป็นลูกรัง ไม่มีรถมาแน่นอน กะว่าเข้าต้องเลี้ยวเข้าซอยแน่นๆ ผมรอจังหวะ รถเลี้ยวเข้าซอย แล้ววิ่งออกไป ตื่นเต้นดีครับ เขาไม่เห็น ผมวิ่งไปสักพักก็เจอรถมอเตอร์ไซด์อีก ทำแบบเดี๋ยวกัน แล้วก็กลับไปที่รถได้ปลอดภัยไม่มีใครเห็นครับ
อายุ 28-33 หาโอกาสแก้ผ้าอยู่เรื่อยๆ ทั้งป่ามัน ทะเล ภูเขา เช่น หาดแม่รำพึง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด(หาดนวล เงียบสงบและมีแต่คนต่างชาติ) หาดพยูน หาดน้ำริน หาดสนกระซิบ ป่าข้างทางถนนสาย 36 ป่าอนุรักษ์แถวตำบลมาบตาพุด น้ำตกคลองปลาก้าง ขับรถเปลือยในตัวเมืองแกลง ป่าโกงกางแถวๆอำเภอแกลง ห้องอาบน้ำของอุทยานแห่งชาติน้ำตกกระทิง จากนั้นเข้าสู่กลุ่ม naturist association thailand กลุ่มรักการเปลือยกายในที่ธรรมชาติ ที่มี host เป็น resort ที่พัทยา ไปเข้ากลุ่มได้ 2 ครั้ง ได้เพื่อนๆพี่ๆ แลกเปลี่ยนเรื่องราวประสบการณ์ที่ดี ในส่วนของกทม ก็มีที่โรงแรมไปแก้ผ้าลงอ่างจากุซซีที่เป็นบ่อรวม ตอนนั้นไม่รู้ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเดินมาบอกว่าห้ามเปลือยกาย ตอนนั้นยืนเปลือยกายคุยกับเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นแบบระยะประชิดเลย ห่างกันแค่ 1 เมตร แต่เจ้าหน้าที่เขาก็เป็นมืออาชีพครับคงเห็นฝรั่งมาเปลือยบ่อยๆครับ ส่วนโรงแรมนาซ่าเวกัส นี่สามารถเปลือยกายลงไปได้เลย เพราะติดป้ายระบุชัดเจนว่า ห้ามสวมชุดว่ายน้ำลงในสระ ให้เปลือยกายลงไปเลย เป็นกฎของที่นั่นครับ
เคยไปต่างประเทศก็ไปใช้บริการโรงอาบน้ำ ได้เปลือยกายสบายใจในอ่างน้ำอุ่นๆสบายใจไปแล้วครับ
รายละเอียดแต่ละเรื่องจะมาอับเดตใหม่
เรื่องส่วนใหญ่ที่เห็นใน blog ก่อนหน้านี้ ได้คัดลอกมาจาก e-mail kintsexex@yahoo.co.th ที่เคยสนทนากับเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นทั้ง naturist และ showoff ถ้าให้ผมให้น้ำหนักตัวเองว่าเป็นแบบไหนก็น่าจะเป็นว่า naturist 95% และ 5% เป็น showoff แต่เป็นการ showoff ที่ต้องการให้คนที่เห็นไม่เดือดร้อนอะไร ประมาณว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครเห็นแล้วตกใจ ส่วนมากเป็นต่างชาติครับที่จะเห็นแล้วเฉยๆ ไม่สนใจ อันนี้จะรู้สึกดีมาก แต่หากเป็นคนไทยเห็นแล้วส่วนใหญ่จะโวยวายครับ ซึ่งผมจะหลีกเลี่ยง
ส่วน blog นี้จะเล่าเรื่องล่าสุดที่ไปมาเมื่อเช้านี้เอง 29 Jan 12 ตื่นมา 7 โมงขับรถไปหาดแม่รำพึงและหาทำเลเหมาะคนน้อยและลับตาคน พร้อมลากเก้าอี้ชายหาดมานั่งแก้ผ้านอน สบายใจ เลือกทำเลที่ใกล้กับโรงแรมที่มีฝรั่งมาพักเยอะๆ จะได้กลมกลืนไป นอนแก้ผ้าจน 10 โมงก็กลับบ้าน ถ่ายรูปไว้ด้วย แล้วค่อยเอาลงวันหลังครับ
จบ part 5

My Natuirst story part 4

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมไปทำธุระที่กทม แต่เนื่องจากไม่มีบ้านพักจึงจำเป็นต้องอาศัยห้องพักรายวันเป็นที่นอน ผมเคยไปพักหลายครั้งแล้ว ห้องดี แอร์ ทีวี ไม่แพง แค่ 400 บาท นับว่าถูกครับ อยู่ในซอยลึกเข้าไปประมาณ 400 เมตร มีซอยทะลุถึงกันหลายซอย มีบ้านคนตลอด

ครั้งแรกที่ผมไป (2-3 เดือนก่อน) sense ผมบอกเลยว่า น่าเดินแก้ผ้ามาก ผมไปครั้งแรกยังไม่มีเวลา ผมเฝ้ารอโอกาสที่จะได้ไปอีก ก็เป็นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง

ผมไปถึงประมาณเที่ยงคืน หลับไปพักนึง ตื่นมาประมาณตี 4 จะว่าไปแล้วมันสายเกินไป แต่ผมก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ผมตัดสินใจเดินออกจากห้องพัก เดินลงไปข้างล่างไปที่ซอยข้างๆที่พัก สำรวจไประยะหนึ่งก็พบว่ามีซอยหนึ่ง ดูท่าทางปลอดภัย คือคุณต้องไม่ลืมว่า สุนัขเป็นศัตรูอันตรายอันดับต้นของการเดินในซอยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกาลและคนแปลกหน้า อันดับต่อมาต้องมีทางหนีที่ไล่มีที่หลบซ่อนและเก็บเสื้อผ้าที่ถอดไว้ ผมสำรวจคร่าวพบว่าซอยนี้แหละ ดี ผมเดินหาที่ซ่อนเสื้อผ้า ไปเจอที่นึงเป็นบริเวณที่ว่างต้นไม้ขึ้นคลุม มีจุดทิ้งขยะ ผมจัดการถอดเสื้อผ้าออกทันทีแล้วค่อยเดินออกมา ต้องนั้นจะมีแสงไฟจะเสาไฟ สว่างพอสมควร ผมเดินไปเรื่อยๆ มีความตื่นเต้นและรู้สึกเป็นสุขมาก ตอนนั้นฟ้าก็เริ่มสางแล้ว พอมีแสงไฟรถจะวิ่งมาใกล้ผมก็จะหลบเข้าข้างทางหาที่บังไม่ให้คนเห็น เดินไปด้วยความรู้สึกมีดีมาก ผมไม่แน่ใจว่าจะมีคนในบ้านหลังใดหลังหนึ่งเห็นผมหรือเปล่า แต่คนเดินไปมา ไม่เห็นแน่นอนครับ มันเป็นความรู้สึกดีตรงที่ว่าต่อให้ใครเห็นก็คงไม่รู้จักผม เพราะว่าผมก็เพิ่งเคยมาแถวนี้เป็นครั้งแรก

ช่วงแรกที่ผมเลยแก้ผ้าก็เพราะว่าซอยที่ผมเดินมีคนรู้จักผม ผมก็จำเป็นต้องเลิก แต่ตอนนี้ผมมีอิสระจะไปไหนก็ได้ ผมก็เลยรู้สึกอยากแก้ผ้าทุกครั้งที่ผมอยู่คนเดียวและไปในที่ต่างๆที่ผมไม่คุ้นเคย

 
วันก่อนผมกลับบ้านจากที่ทำงาน มองออกไปเห็นซอยข้างๆ หมู่บ้านเป็นทางเปลี่ยว ลัดเลาะกำแพงด้านนอก ด้านนอกจะเป็นป่า ไม่มีบ้านคน ส่วนด้านในกำแพงมีบ้านของหมู่บ้านตั้งอยู่ หากเป็น บ้านสองชั้นจะมองออกมาเห็นถนนดังกล่าว ผมขับรถลัดเลาะกำแพงไปเพื่อสำรวจ ปรากฏว่าไม่มีบ้านคนด้านนอกเลยเป็นป่าหมด ผมหาที่จอดรถ ถอดกางเกง เสื้อออก เปิดประตูรถออกมา ตื่นเต้นมากครับ บนถนนลาดยางที่เรียบๆ ไม่มีรถวิ่ง ผมเดินไปตามถนน เดินไปประมาณ 200 เมตรได้ ก็เดินกลับมาที่รถ ไม่มีรถวิ่ง ไม่มีคนเห็นจากข้างนอก แต่ข้างในหมู่บ้านผมไม่แน่ใจ แต่เท่านี้ผมก็ตื่นเต้นมากแล้วครับ

อีกเรื่องนึง คือผมเพิ่งนึกได้ เมื่อตอนเด็กๆ อายุประมาณ 14 ผมเดินไปที่ข้างบ้าน จะเป็นป่ารกๆ มีถนนรอบๆ เป็นลูกรัง มีรถวิ่งไปมาบ้าง ผมชอบผจญภัย เดินสำรวจป่าไปได้ซักพักก็อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากแก้ผ้าครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแก้ผ้าในที่สาธารณะ ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ผมชอบไปมาก ไปเดินแก้ผ้าในป่า ตื่นเต้นและมีความสุขมาก

My Naturist story part 3

มีอยู่วันนึงผมก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนก็มึนๆ นิดนึง ไม่มากเท่าไร จำได้ว่า วันนั้นกลับมาถึงห้องแล้วก็เกิดอารมณ์อยากแก้ผ้า (ปกติผมแก้ผ้านอนทุกคืนอยู่แล้วจนไม่ตื่นเต้นแล้ว) ผมก็เดินออกมานอกโรงแรม ประมาณตี 2.30 ผมเดินไปซอยข้างโรงแรม แล้วก็ไปยืนอยู่มุมมืดๆ ข้างรถที่จอดอยู่สำรวมจไปมาซักพัก ไม่มีคนผมก็ถอดเสื้อถอดกางเกงออก (ไม่ใส่กางเกงในอยู่แล้ว) ตื่นเต้นมาก ในบริเวณนั้นจะเป็นถนนตัดกับซอย ดึกแล้วไม่มีรถวิ่ง ผมมองซ้ายมองขวา เห็นว่าปลอดคนดีก็เดินออกมาจากมุมมืดนั้น เดินไปถึงสามแยกตื่นเต้น ไม่มีเสื้อผ้าซักชิ้นท่ามกลางตึกรามบ้านคน ไฟก็ไม่ค่อยสว่างเท่าไร ผมเดินไปนั่งที่ม้าหินตรงร้านค้า มองไปมองมาซักพักก็เดินข้ามถนนไปที่ตู้โทรศัพท์แล้วก็เดินกลับไปที่ซ่อนเสื้อผ้าไว้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้ ผมใส่เสื้อผ้าและก็เดินกลับขึ้นห้องไปนอนหลับสบาย